วันนี้เป็นวันก่อนสงกรานต์หนึ่งวัน
เพิ่งกลับมาจากบ้านสามีที่แปดริ้ว
ก็เลยเพิ่งนึกออกว่า....เมื่อต้นเดือน
ได้ไปกินก๋วยเตี๋ยวปากหม้อที่บางคล้า
กับ เสี่ยโอ๋ และน้องแพรวมานั่นเอง
จะไม่นำเสนอก็กระไรอยู่
ถือได้ว่าเป็นการกินที่ต้องตื่นตระหนกอยู่ตลอดเวลา
ตั้งแต่เห็นร้าน ก็ว่าทำไมต้องนั่งเก้าอี้ตัวน้อย
เหตุผลก็คือ เค้าจะเสริฟน้ำซุปที่เราต้องการ
มีสามน้ำด้วยกัน ไก่ หมู และ ลูกชิ้น
เมื่อเราได้ซุปตามที่เราออเดอร์ไปแว้ว
ก็จะมีการเวียนใส่ตัวข้าวเกรียบปากหม้อ
ซึ่งจะมีแม่ค้าเป็นศูนย์กลาง ดังนั้นเราจึง
ต้องนั่งเก้าอี้ตัวน้อย เพื่อสร้างความใกล้ชิดกับแม่ค้า
แม่ค้าจะทำข้าวเกรียบปากหม้อไปทุกๆ คน
เป็นรอบๆ ไป มีหลายไส้ให้เลือกสรร
ช่วงที่ไม้พายจะนำพาตัวข้าวเกรียบมาเนี่ย
ตื่นเต้นมาก กลัวหล่น กลัวจะโดนหน้าด้วย
(คนทำโหดซะด้วย...อิอิ)
รสชาติก็ใช้ได้ แต่กรรมวิธีนี่สิ ประทับใจสุดๆ
ที่สำคัญ คนขายจำได้ไงนะ ว่าชามไหน
กินข้าวเกรียบปากหม้อไปกี่ตัว
น้ำซุปชามละ ยี่สิบห้าบาท
ข้าวเกรียบปากหม้อ สองตัว ห้าบาท
มื้อนี้ สี่ท่าน เสียทรัพย์ไป สองร้อยห้าสิบ
รวม โค้กด้วย สี่ขวดจ้า.........
ปล.ทำไมเรียกข้าวเกรียบหว่า???
ไม่เห็นจะกรอบซะหน่อย
เพิ่งกลับมาจากบ้านสามีที่แปดริ้ว
ก็เลยเพิ่งนึกออกว่า....เมื่อต้นเดือน
ได้ไปกินก๋วยเตี๋ยวปากหม้อที่บางคล้า
กับ เสี่ยโอ๋ และน้องแพรวมานั่นเอง
จะไม่นำเสนอก็กระไรอยู่
ถือได้ว่าเป็นการกินที่ต้องตื่นตระหนกอยู่ตลอดเวลา
ตั้งแต่เห็นร้าน ก็ว่าทำไมต้องนั่งเก้าอี้ตัวน้อย
เหตุผลก็คือ เค้าจะเสริฟน้ำซุปที่เราต้องการ
มีสามน้ำด้วยกัน ไก่ หมู และ ลูกชิ้น
เมื่อเราได้ซุปตามที่เราออเดอร์ไปแว้ว
ก็จะมีการเวียนใส่ตัวข้าวเกรียบปากหม้อ
ซึ่งจะมีแม่ค้าเป็นศูนย์กลาง ดังนั้นเราจึง
ต้องนั่งเก้าอี้ตัวน้อย เพื่อสร้างความใกล้ชิดกับแม่ค้า
แม่ค้าจะทำข้าวเกรียบปากหม้อไปทุกๆ คน
เป็นรอบๆ ไป มีหลายไส้ให้เลือกสรร
ช่วงที่ไม้พายจะนำพาตัวข้าวเกรียบมาเนี่ย
ตื่นเต้นมาก กลัวหล่น กลัวจะโดนหน้าด้วย
(คนทำโหดซะด้วย...อิอิ)
รสชาติก็ใช้ได้ แต่กรรมวิธีนี่สิ ประทับใจสุดๆ
ที่สำคัญ คนขายจำได้ไงนะ ว่าชามไหน
กินข้าวเกรียบปากหม้อไปกี่ตัว
น้ำซุปชามละ ยี่สิบห้าบาท
ข้าวเกรียบปากหม้อ สองตัว ห้าบาท
มื้อนี้ สี่ท่าน เสียทรัพย์ไป สองร้อยห้าสิบ
รวม โค้กด้วย สี่ขวดจ้า.........
ปล.ทำไมเรียกข้าวเกรียบหว่า???
ไม่เห็นจะกรอบซะหน่อย
Comments