Skip to main content

พิธีกงเต๊ก

เมื่อวันก่อนได้ไปงานศพคุณตาของพี่ณี
เป็นการจัดงานศพแบบจีน ซึ่งไม่เคยไปมาก่อนเลย
เคยเห็นแต่ผ่านๆ พอได้ไปสัมผัสจริงๆ
รู้สึกว่าเป็นอะไรที่ทรงคุณค่า มีความหมายทุกขั้นตอน
ก็เลยลองมาค้นหาความหมาย เลยเอามาให้อ่านกันด้วย
สุดท้ายก็ขอแสดงความเสียใจกับพี่ณีอีกครั้งนะคะ






กงเต็ก เป็นคำสองคำประกอบเป็นคำใหม่ที่ให้ความหมายครบถ้วนว่า
กง แปลว่า ทำแทน
เต็ก แปลว่า ทำให้
กงเต็ก หมายถึง การที่ลูกหลานทำบุญกุศล ทั้งทำแทนตัวผู้ตายและทำให้ผู้ตายด้วย เพื่อให้ผู้ตายได้กุศลผลบุญมาก ๆ และมากพอจะไปขึ้นสวรรค์สุขาวดีขององค์อมิตาภพระพุทธเจ้า

พิธีกงเต็กจะมี 3 แบบด้วยกัน
1. แบบพระจีนเป็นผู้ทำพิธี ซึ่งถ้าต่างนิกายก็มีรายละเอียดต่างกัน ที่เห็นชัดเจนคือช่วงงานพระศพสมเด็จย่า มีการทำ พิธีกงเต็ก หลายครั้งมาก และจากต่างคณะพระจีนกัน
2. แบบคนธรรมดาประกอบพิธี เป็นผู้ชายสวมชุดพระจีนสีขาว
3. แบบกงเต็กจีนแคะ จะเป็นนางหรือ "ชี" ทำพิธี แต่ไม่ใช่นางชีโกนหัว หากเป็นชีซึ่งเป็นสาวสวย แต่งหน้าทำผม สวยงาม บางท่านเรียกนางชีพวกนี้ว่า.... เจอี๊

การทำพิธีกงเต็กจะใหญ่ หรือเล็กขึ้นอยู่กับจำนวนพระที่นิมนต์มาสวด
ถ้าเป็นกงเต็กใหญ่จะต้องนิมนต์พระมาสวด 5 รูปขึ้นไป อาจเป็น 5, 7, 9, หรือ 11 รูปก็ได้
หากนิมนต์พระ 5 หรือ 7 รูปมาสวด เรียกว่า จับอ๊วง หรือจับอ๊วงฉ่ำ
หากนิมนต์รพระ 9 รูปมาสวด เรียกว่า โชยฮุดฉ่ำ
หากนิมนต์พระ 11 รูปมาสวด เรียกว่า เทียงโค่วฉ่ำ

ถ้าเป็นกงเต็กเล็กจะมี 2 อย่าง
1. นิมนต์พระมาสวดรูปเดียว เรียกว่า คุยหมั่งโหล่ว
2. นิมนต์พระมาสวด 3 รูป เรียกว่า จุยฉ่ำ คำว่า "ฉ่ำ" แปลว่า ถวายคือสวดมนต์ถวายพระพุทธและพระโพธิสัตว์นั่นเอง
พิธีกรรมงานกงเต็กจะแบ่งออกเป็น 3 ช่วงเวลา เช้า-บ่าย-ค่ำ
โดยทางวัดจีนส่งคนมาจัดสถานที่และเตรียมสิ่งของแต่เช้าตรู่
ก่อนเริ่มพิธี ร้านทำของกงเต็กจะเอาของมาส่งให้ ลูกหลานตรวจนับ รับของให้เรียบร้อย แล้วจัดการเอากระดาษทอง ที่เตรียมไว้มากมายล่วงหน้า ใส่ในบรรดาของกงเต็กชนิดต่าง ๆ ให้มากที่สุด ซึ่งกระดาษเงินกระดาษทองจะมี 3 แบบด้วยกันคือ
1. แบบตั่วกิม หรือจะเรียกว่าค้อซีก็ได้ เป็นกระดาษเงินกระดาษทองแบบแผ่นใหญ่ ลูกหลานเอามาพับเป็นแบบยาว ๆ แหลม ๆ
2. แบบกิมจั้ว เป็นกระดาษเงินกระดาษทองแบบแผ่นเล็ก ลูกหลานเอามาม้วนกลม ๆ แล้วปิดหัวท้ายให้แหลม ๆ
3. แบบทองแท่งสำเร็จรูป เรียกว่า กิมเตี๊ยว

ช่วงเตรียมของกงเต็กนี้ พระจีนจะเป็นผู้เขียน "ใบส่งของ" ให้เหมือนเป็นการจ่าหน้าซองจดหมาย เพื่อให้รู้ว่า.... ผู้รับของคือใคร ผู้ส่งคือใคร ใบกระดาษบอกชื่อผู้ส่งผู้รับนี้ ต้องปิดบนของกงเต็กทุกชิ้น เช่นเดียวกับที่ลูกหลานต้องเอาเสื้อของผู้ตาย เลือกตัวที่ผู้ตายชอบมากที่สุดเพื่อให้มั่นใจว่าผู้ตายน่าจะจำลายผ้าได้เนื่องจากเสื้อผ้าจะต้องถูกตัดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เพื่อแปะติดไปกับของทุกชิ้น เพื่อที่ผู้ตายจะได้รู้ว่ากองของกงเต็กที่เผาไปนี้เป็นของท่านและเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้อื่นมาเอาของผิดกองเช่นกัน เพราะแต่ละวันแต่ละวัดจะมีพิธีกงเต็กซ้อนกันหลายงาน

จากนั้นพระจะประจำที่เพื่อเริ่มพิธีสวดมนต์ ลูกหลานจะใส่ชุดกระสอบเต็มชุดใหญ่ นั่งประจำหน้าที่พระพุทธ ลูกชายนั่งหน้าสุด ลูกสะใภ้ลูกสาวนั่งแถวสอง ชั้นเขยและชั้นหลานนั่งแถวหลังตามมา ที่เบื้องหน้าลูกชายมีของกงเต็ก 3 ชิ้นสำคัญ คือ
1. ม้ากงเต็ก
2. นกกงเต็ก
3. โคมวิญญาณ ที่สถิติของวิญญาณผู้ตายระหว่างทำพิธีที่โคมกงเต็กนี้ต้องนำเสื้อผู้ตายมาสวม และมีชื่อผู้ตายเขียนแปะไว้ด้วย

พิธีเริ่มด้วยการเปิดกลอง 3 ตูมดัง ๆ ปี่พาทย์มโหรีบรรเลงรับพระสวด ประสานมนต์ที่หน้าพระพุทธ และพระโพธิ์สัตว์ พิธีกรรมช่วงนี้ เรียกง่าย ๆ ว่า สวดเชิญพระลงมา คือนิมนต์ท่านเป็นประธาน พิธีให้บังเกิดความศักดิ์สิทธิ์และเป็นสิริมงคล ในช่วงระหว่างพิธีสวด หลังจากที่พระอ่านเอกสารที่เป็นชื่อวัด ชื่อผู้ตาย บ้านเลขที่ ซอย ถนน อันเป็นที่อยู่ของเรา
และบรรดาชื่อลูกหลาน แล้วก็จะนำเอาเอกสารที่อ่านนั้นมาใส่ที่ม้ากงเต็กพร้อมด้วยการทำพิธีที่ม้า ท่านจะเอาธูป 3 ดอก
และเทียนเล่มหนึ่งมาวน ๆ ที่หัวม้า พร้อมสวดคาถาพึมพำ พรมน้ำมนต์จากขันเล็ก ๆ ด้วยนิ้วอย่างมีลีลาน่าดู แล้วใช้ใบทับทิม
พรมตามอีกที จากนั้นพระจะสั่งให้ลูกชายคนโตยกม้ากงเต็กขึ้นจบเพื่อให้เจ้าหน้าที่นำไปเผา ระหว่างพิธีตอนนี้พระรูปอื่น
ก็ยังสวดมนต์หมู่อยู่ หลังจากสวดอีกพอประมาณ พระรูปเดิมก็มาทำพิธีเพื่อส่งนกกงเต็กไปเผาเช่นกัน พิธีกรรมก็เหมือนกัน
กับการเผาม้า ที่ม้าและนกจะมีเทวดานั่งอยู่ สันนิษฐานว่าท่านคงเป็นเทวทูต นำเอกสารของผู้ตายขึ้นไปบอกเง็กเซียนฮ่องเต้ ให้ทราบถึงการตายและพิจารณารับเอาวิญญาณผู้ตายขึ้นสวรรค์ พระสวดอีกครู่หนึ่ง เจ้าหน้าที่ก็นำบรรดาของไหว้คือ

1. ข้าว 1 ชาม
2. เหล้า 1 แก้ว
3. น้ำชา 1 แก้ว
4. กับข้าว 3 อย่าง
5. ซาแซ 1 ชุด (หมู ไก่ เป็ด ปลา ตับ)
6. ผลไม้ 5 อย่าง
7. ชกก๊วย 1 อัน สีขาว และให้ลูกหลานจบถวาย เมื่อพระสวดเสร็จ ลูกหลานกราบพระ 3 ครั้ง

พิธีต่อมาคือ การเชิญวิญญาณผู้ตายมาร่วมพิธี มักทำในช่วงบ่ายต้น ๆ พระและลูกหลานย้ายมาที่บริเวณหน้าศพ มีการนำ
ห้องน้ำกงเต็กมาวาง ภายในห้องน้ำมีอ่างขาวใส่น้ำ ในน้ำมีเถ้ากระดาษเงินกระดาษทองเผาไว้ประหนึ่งเป็นน้ำมนต์
และผ้าขนหนูสีขาว ขั้นแรก เจ้าหน้าที่จะเอาเสื้อกงเต็กมาให้ลูกชายไหว้จบ เพื่อเอาไปเผา โคมวิญญาณถูกย้ายมา
ตั้งด้านหน้า พิธีกรรมในช่วงนี้คือ การสวดเชิญวิญญาณมาเข้าพิธี คนจีนมีความเชื่อว่า คนเราเมื่อตายแล้ว เจตภูต
จะสลายแยกเป็น 3 วิญญาณ คำจีนเรียกว่า ซาฮุ้งซิกเพก
ซา แปลว่า สาม
ฮุ้ง แปลว่า วิญญาณ
ชิกเพก แปลว่า เป็นคำทางพระ

เมื่อคนตายแล้ว วิญญาณทั้งสามจะล่องลอย พระจะสวดเชิญดวงวิญญาณทั้งสามนี้ให้มาเข้าพิธี โดยจะเชิญให้ดวงวิญญาณ หนึ่งสถิตที่โคมวิญญาณ ดวงหนึ่งสถิตอยู่ที่รูป ซึ่งเมื่อเสร็จงานศพ ลูกหลานจะ
นำไปขึ้นหิ้งบูชาที่บ้าน และอีกดวงหนึ่งจะสถิตอยู่ที่โลงศพ
ในระหว่างพิธี พระรูปหนึ่งจะเดินไปพรมน้ำมนต์ที่โคมวิญญาณ มีการเดินไปพรมน้ำมนต์ที่รูปผู้ตาย
แล้วก็เลยเข้าไปพรมที่โลง พิธีกรรมในช่วงนี้จึงประหนึ่งการเชิญวิญญาณมาเพื่อสถิตอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า
ทานอาหารเจ และฟังพระสวดมนต์
พิธีเริ่มเมื่อพระจุดเทียนขาวคู่ใหญ่ที่ตั้งหน้าโต๊ะไหว้ จุดธูป 3 ดอกให้ลูกชายคนโตไหว้ แล้วจึงเริ่มสวดมนต์ ที่เมื่อถึงตอนหนึ่งจะมีการส่งตัวคนใช้กงเต็กไปรับใช้ผู้ตาย ลูกหลานต้องคิดชื่อคนใช้เตรียมไว้แล้วบอกพระ โดยมีหลักที่ถือกันว่าจะไม่ตั้งชื่อคนให้เด็ดขาด เพราะเกรงจะเป็นการแช่งคนเป็นให้เกิดเป็นบาปติดตัว
การทำพิธีส่งคนใช้ โดยพระรูปหนึ่งแยกจากการสวดมนต์มากวักมือเรียกสะใภ้ใหญ่ ถ้าไม่มีก็ลูกสาว พากันไปที่ ตุ๊กตาคนใช้ ซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังโต๊ะไหว้ พระจะบอกบทให้ลูกสะใภ้พูดที่ตุ๊กตาชายว่า "...(เรียกชื่อตุ๊กตา)....
ใช้ให้ทำอะไรต้องไปทำนะ" ว่าแล้วก็เอาธูปที่ติดไฟแดง ๆ จิ้มที่ติ่งหูตุ๊กตาหนึ่งที แล้วก็ไปทำอย่างเดียวกันนี้ที่ตุ๊กตาคนใช้ผู้หญิง ก็เป็นอันจบพิธีกรรมการส่งคนใช้กงเต็กไปรับใช้ผู้ตาย
จนถึงตอนที่วิญญาณต้องอาบน้ำ พระก็จะไปพรมน้ำมนต์ที่ห้องน้ำกงเต็ก ซึ่งห่อเสื้อผ้ากงเต็กถ้ายังไม่ได้เผาแต่ก่อนเริ่มพิธี
ก็จะถูกเผาในช่วงนี้ ช่วงใกล้ ๆ จบก็เป็นการไหว้อาหาร ขนม และผลไม้ให้ผู้ตาย โดยบรรดาลูกชายที่นั่งแถวหน้า ฝ่ายลูกหลานแถวหลังก็ใช้การจับชายเสื้อคนข้างหน้าต่อ ๆ กัน เป็นการร่วมรับบุญ
เมื่อเสร็จพิธี ลูกสะใภ้จะถูกตามตัวให้ยกอ่างน้ำในห้องน้ำกงเต็กไปเททิ้งตามธรรมเนียมที่ลูกสะใภ้ต้องปรนนิบัติพ่อแม่สามี ถ้าไม่มีสะใภ้ก็เป็นหน้าที่ลูกสาวไปแทน
ช่วงบ่ายแก่ ๆ เป็นการไหว้ใหญ่แก่บรรพบุรุษ ของไหว้ประกอบด้วย
1. ข้าวสวย 6 ชาม
2. เหล้า 6 แก้ว
3. น้ำชา 6 แก้ว
4. กับข้าว 5 อย่าง แบ่งเป็น 10 ชุด
5. ซาแซ 1 ชุด
6. ผลไม้ 5 อย่าง 1 ชุด
7. ฮกก๊วยสีแดง 1 อัน
8. อั่งถ่อก๊วย 12 อัน
9. ข้าวสาร 5 กิโลกรัม 1 ถุง
10. ส้ม 24 ใบ
11. ขนมจันอับ 1 กิโลกรัม
จำนวนถ้วยข้าว ตะเกียบ จะมี 6 ชุด
ที่ปักธูปชุดที่ 1 วางกลาง คือชุดปักธูปไหว้อากง - อาม่า หรือบิดามารดา
ที่ปักธูปชุดที่ 2 อยู่ขวา เป็นชุดปักธูปไหว้พ่อตาแม่ยายของคุณพ่อ มีคำจีนเรียกว่า หวั่วกงหวั่วม่า
ที่ปักธูปชุดที่ 3 ตั้งทางซ้าย เป็นชุดปักธูปไหว้พี่น้องของคุณพ่อที่เสียชีวิตไปแล้ว
พระทำพิธีสวดมนต์จนถึงตอนที่ลูกหลานต้องทำการไหว้ อาหารให้บรรพบุรุษ เมื่อไหว้สำรับกับข้าวบนโต๊ะแล้ว ก็ตามด้วย
การไหว้กระดาษเงิน กระดาษทอง

การไหว้หีบเสื้อผ้าให้บรรพบุรุษ ซึ่งจำนวนหีบเสื้อผ้านั้น จะไม่ถูกกำหนดไว้ตายตัว โดยจะนับตามจำนวนของลูกใน คือคนในแซ่ จึงได้แก่ฝ่ายชายและสะใภ้ส่วนลูกนอกคือลูกสาวถือว่าแต่งงานไปแล้วใช้แซ่อื่น คือไปเป็นคนในตระกูลอื่นก็จะไม่ไหว้และไม่ฝากหีบ
เสื้อผ้าไปให้ แต่ถ้าบ้านใดรู้สึกผูกผันอยากไหว้ ก็ไม่ใช่ว่าผิด แต่การไหว้หีบเสื้อผ้าให้ก็ต้องเสียสตางค์ซื้อมา ถ้าเราอยากเสียเงินเพิ่ม ก็เป็นสิทธิของเรา
เสร็จจากการไหว้บรรพบุรุษจะเป็นพิธี "ซึงกิมซัว" แปลว่า ทลายภูเขาทอง เพื่อเป็นนัยอวยพรให้ลูกหลานรุ่งเรือง โดยเป็นการแสดงรำธงของพระจีนปลอม คือผู้ชายใส่ชุดพระสีแดงพร้อมหมวกพระจีนออกมาแล้ว แสดงโชว์เป็นธรรมเนียมเฉพาะ ของคนจีนอำเภอเตี้ยเอี้ยและเป็นธรรมเนียมว่าลูกสาวที่ออกเรือน
แล้วจัดมาไหว้บุพการีให้ได้ชมก่อนจะถึงพิธีกรรมการพาข้ามสะพานกงเต็กไปไหว้พระพุทธในแดนสวรรค์
ก่อนเริ่มพิธีจะต้องมีการไหว้บูชา โดยลูกสาวที่ออกเรือนแล้วเท่านั้นมาจุดธูปไหว้ บอกผู้ตายว่าจะไหว้ "ซึงกิมซัว" โชว์ ที่หน้าโต๊ะไหว้ ที่ตั้งพิเศษอัญเชิญ
ภาพปฏิมาขององค์อมิตาภพระพุทธเจ้ากับของพิเศษอย่างหนึ่งน่าสนใจมาก เป็นถาดใส่ข้าวสาร ขันน้ำมนต์ เหรียญสตางค์ พร้อมซองอั้งเปา
นับตามจำนวนลูกของผู้ตาย ซึ่งถ้าลูกชายคนโตมีลูกชายคนโต ก็ต้องนับเพิ่มอีกหนึ่ง
การข้ามสะพานกงเต็ก
พิธีกรรมข้ามสะพานของลูกหลาน คือการที่พระพาดวงวิญญาณมาส่งยังเขตแดนสวรรค์ โดยมีลูกหลาน กตัญญูตามมาส่งด้วย นั่นเอง ส่งเสร็จก็ข้ามกลับ
โดยทุกครั้งที่ข้ามสะพานลูกหลานทุกคนต้องโยนสตางค์ลงในอ่างน้ำ ประหนึ่งเป็นการซื้อทางให้แก่ผู้ตายและตนเอง แต่จะมีข้อสำคัญว่า ถ้าลูกหลานที่เป็นผู้หญิง
ใครมีประจำเดือนจะไม่ให้ข้ามสะพาน
ก่อนเริ่มพิธีลูกชายคนโตจะถูกต้องไปไหว้บูชาสะพานไหว้ธูป 2 ดอก ขนม และกระดาษเงินกระดาษทอง
พิธีเริ่มจากการสวดมนต์ของพระที่ปะรำหน้าศพ สวดจนได้จังหวะของบทตอน พระทั้งหมดก็จะเดินขบวน โดยพระรูปที่ 2 จะเป็นผู้ถือโคมวิญญาณ
ต่อจากแถวพระคือขบวนลูกหลาน โดยจะไล่ตามศักดิ์ และอาวุโส ลูกในที่นี้คือลูกชายนำหน้า ลูกชายคนโตคือหัวขบวน ตามด้วยลูกชายคนต่อ ๆ มา
ถ้าลูกชายคนโตมีลูกชายตามศักดิ์แล้วลูกชายคนโตของลูกชายคนโตเท่านั้น ก็จะมาต่อท้าย เป็นลูกชายคนเล็ก แล้วจึงตามด้วยลูกสะใภ้ แล้วตามด้วยลูกสาว ตามด้วยลูกเขย แล้วตามด้วยชั้นหลาน
การข้ามสะพานจะแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือช่วงข้ามไปและช่วงข้ามกลับ ช่วงแรกจะเป็นการพา ดวงวิญญาณข้ามไปส่ง แดนสวรรค์ เมื่อข้ามไปถึงพระจะหยุดขบวน พระจะวางโคมวิญญาณลงกับที่
เหล่าพระทั้งหมดล้วนก้มกราบพระพุทธ มีการจุดธูป 3 ดอก ให้ลูกชายคนโตไหว้ เพื่อเป็นการไหว้พระพุทธแทนตัวผู้ตาย แล้วปักธูปลงในกระถางธูปของผู้ตายเอง
จากนั้นขบวนพระก็จะพาขบวนลูกหลานข้ามกลับมายังโลกมนุษย์ โดยจะไม่ถือโคมวิญญาณกลับมาด้วย และขากลับจะต้องข้ามสะพานสวนทางกับขาไป ข้ามไปกี่รอบก็ต้องข้ามกลับจำนวนรอบเท่าเดิม
เมื่อถึงโลกมนุษย์ ขบวนพระก็หยุด ลูกชายคนโตจะนำกระถางธูปไปวางไว้ที่ปะรำหน้าศพ เจ้าหน้าที่จะนำหีบเสื้อผ้าของผู้ตายมาวางโดยมีโคมวิญญาณวางซ้อนบนหีบเสื้อผ้าอีกที
จากนั้นลูกหลานนั่งฟังพระสวดต่อ จนจบหนังสือมนต์เล่มสุดท้าย ซึ่งทุกครั้งที่มีการสวดมนต์จบเล่ม พระจะต้องนำ หนังสือมนต์นี้มา ให้ลูกชายเปิดดู แล้วยกสวดมนต์นั้นขึ้นจบถวาย เล่มสุดท้ายก็เช่นกัน

เสร็จพิธี ลูกหลานจะกราบหน้าศพ 4 ครั้ง แล้วเหี่ยมหีบเสื้อผ้ากับโคมวิญญาณเพื่อนำไปเผา เช่นเดียวกับบรรดาของกงเต็กอื่น ๆ ทั้งหมด ลูกหลานต้องช่วยกันเหี่ยมโดยมีหลักการว่าคนอื่นอาจช่วยยกของได้
แต่ลูกหลานเท่านั้นที่ต้องเป็นผู้เหี่ยมของกงเต็กทั้งหลาย และต้องเหยี่มทุกชิ้นไม่ขาดตกสิ่งใด
รวมของที่ใช้ในงานกงเต็ก
ม้า
นก
โคม
ห้องน้ำ

ต้องขอขอบคุณครอบครัว อนุกูลประเสริฐ ที่ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับพิธีกรรมต่างๆ รวมไปถึงข้อมูลด้วย


ทีมา http://www.susarn.com/susarnth/th_celemony/th_Chinese/Kongtek.htm

Comments

Popular posts from this blog

เครื่องแบบตำรวจไทย

ตั้งแต่เป็นสาวซ่าของยอดชายนายอาร์ต ก็มีความสนใจในวงการตำรวจมากขึ้น เมื่อวานก็เป็นเจ๊ดันโชว์ตัวยอดชายนายอาร์ตไปเรียบร้อยแล้ว เกิดความสงสัยขึ้นมาว่าทำไมยอดชายนายอาร์ตมีเครื่องแบบหลายชุดจัง?? ด้วยความอยากรู้อยากเห็นก็ได้เรื่องมาเล่าให้ฟังดังนี้นะจ๊ะ หลังจากมีผู้สนใจเข้ามาชมกันมากมาย ก็เลยนำเครื่องแบบมาเพิ่มให้ชมกัน หรือแวะไปได้ที่ http://www.geocities.com/pocady35/uniform.htm เครื่องแบบเต็มยศ ประกอบด้วย 1.หมวกปีกทรงแข็งสีกากี มียอดโลหะสีเงิน (หมวกยอด)2.เสื้อนอกคอปิดสีกากี3.กางเกงขายาวสีกากี ติดแถบสีเลือดหมูดำ ที่ข้างขา ทั้ง 2 ข้าง4.กระดุมเงิน 7 เม็ด5.อินทรธนูแข็งบอกชั้น6.เข็มขัดและคันชีพสีขาว7.รองเท้าหนังครึ่งน่อง สีดำ8.ถุงมือสีขาว โอกาสที่ใช้ 1.กองเกียรติยศ เฉพาะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบรมราชินีนาท2.กองเกียรติยศต้อนรับประมุขของต่างประเทศ เครื่องแบบครึ่งยศ ประกอบด้วย 1.หมวกหม้อตาลสีกากี สายรัดคางดิ้นสีเงิน2.เสื้อนอกคอปิดสีกากี3.กางเกงขายาวสีกากี ติดแถบสีเลือดหมูดำ ที่ข้างขาทั้ง 2 ข้าง4.อินทรธนูแข็งบอกชั้น5.เข็มชัดและสายคันชีพสีขาว6.กระดุมเงิน 7 เม็ด7.รองเท้าหนังครึ่งน่อ

บริษัท กุลธรเคอร์บี้ จำกัด (มหาชน)

บริษัท กุลธรเคอร์บี้ จำกัด จดทะเบียนก่อตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2523 โดยมีทุนจดทะเบียนเริ่มต้นที่ 50 ล้านบาท ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2534 และได้แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนภายใต้ชื่อ บริษัท กุลธรเคอร์บี้ จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2537 บริษัทได้จัดตั้งโรงงานผลิตมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ ที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่ง ณ นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบังและได้ทำพิธีเปิดโรงงาน เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2525 ทำการผลิตและจำหน่ายมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ แบบลูกสูบ (Reciprocating Compressor) สำหรับใช้กับเครื่องทำความเย็น เช่น ตู้เย็น ตู้แช่ ตู้ทำน้ำเย็น ตู้เย็นเชิงพาณิชย์ และเครื่องปรับอากาศเป็นสินค้าหลัก และทำการผลิต Condensing Unit สำหรับใช้กับระบบทำความเย็นในเชิงพาณิชย์ (Commercial Refrigeration) รวมทั้งชิ้นส่วนมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ และชิ้นส่วนมอเตอร์ไฟฟ้า บริษัทมีบริษัทย่อยสามแห่ง คือ (1) บริษัท กุลธรเคอร์บี้เฟาน์ดรี่ จำกัด ผลิตชิ้นส่วนเหล็กหล่อ (Quality Casting) สำหรับใช้ในอุตสาหกรรมผลิตมอเตอร์คอมเพรสเซอร์และ ยานยนต์ (2) บริษัท กุลธรพรีเมียร์ จำกัด ผลิตมอเตอร์คอมเพรสเซอร์แบบลูกสูบ รว